บทที่ 4 Chapter 3 เด็กดี

ในเวลานี้สองพี่น้อง กำลังเดินเข้ามาในร้านบุรินทร์คาเฟ่ บรรยากาศแบบบ้าน ๆ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งคาร์เตอร์กับคามิลลามักจะมาทำงานหลังเลิกเรียนเป็นประจำ ถึงแม้มารดาไม่อยากให้ทำ แต่เมื่อลูกทั้งสองของเธอรบเร้า ด้วยเหตุผลนับร้อยนานานประการ พราวมุกจึงต้องจำยอมต่อความต้องการของลูก ๆ เธอ

“สวัสดีค่ะคุณลุง/สวัสดีครับคุณลุง” ทั้งสองยกมือไหว้แล้วกล่าวทักทายเจ้าของร้านออกไปอย่างเป็นกันเอง

“หวัดดีครับ วันนี้มีการบ้านหรือเปล่าครับเด็ก ๆ” เจ้าของร้านที่มีบุคลิกและคุณสมบัติเพียบพร้อม เหมาะจะมาเป็นพ่อของพวกเธอ แต่กลับถูกมารดาอย่างพราวมุกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งที่เด็ก ๆ เข้ากับเขาได้เป็นอย่างดี

“พวกเราสองคนทำการบ้านมากจากที่โรงเรียน เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ขอไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะคุณลุง ไปคาร์เตอร์” ดูเหมือนคามิลลาจะตื่นเต้นกับงานที่ทำ ไม่ว่าเหนื่อยแค่ไหน พอได้ค่าจ้างรายวันทีไร มันทำให้คนทั้งคู่ภูมิใจมากเลยทีเดียว

“คามิลลา”

“ว่าไง” พอเปลี่ยนชุดเสร็จ คาร์เตอร์ดูอ้อยอิ่ง หน้าตาของเขาบ่งบอกให้น้องสาวรู้ว่าพี่ชายกำลังท้อใจ

“เธอเชื่อเรื่องที่น้าน้ำพูดไหม”

“เรื่องอะไรเหรอ”

“ก็เรื่องพ่อของเราไง”

“นายอย่าพูดให้แม่ได้ยินเชียวนะ แม่บอกแล้วไม่ใช่เหรอคาร์เตอร์ พ่อตายไปแล้ว เขาตายไปจากชีวิตของพวกเราแล้ว” คามิลลามักจะแสดงน้ำเสียงแข็ง เวลาพูดถึงบิดาของเธอ

เด็กหญิงวัยสิบสามปี ที่ดูโตเป็นสาวสวยพอๆ กับคาร์เตอร์ที่ดูโตเป็นหนุ่มหล่อเกินวัยเดียวกัน หน้าตาของเธออ่อนหวานมารยาทงามน้ำใจดีเป็นเลิศ เพราะถูกปลูกฝังด้านคุณธรรมจริยธรรมมาตั้งแต่เด็ก คนทั้งคู่มีมารดาอย่างพราวมุกเป็นผู้เลี้ยงดูฟูมฟักมาอย่างดี แต่หัวใจของคามิลลากลับแกร่งยิ่งกว่าภูผา

แน่นอนว่าคามิลลาตั้งปณิธานเอาไว้อย่างแน่วแน่ ถ้าวันใดได้พบกับบิดา เธอจะไม่มีวันให้อภัยผู้ชายคนนั้น คนที่ทิ้งมารดาและเธอกับพี่ชายไปอย่างไม่ใยดี เขาไม่มีสิทธ์แม้แต่คิดที่จะเป็นพ่อของเธอ

“แต่วันนั้นที่แม่คุยกับน้าน้ำ เธอเองก็ได้ยินไม่ใช่เหรอ พวกเขาพูดถึงพ่อของเรา แสดงว่าพ่อยังอยู่”

“นายเลิกเพ้อเจ้อสักทีได้ไหมคาร์เตอร์ เรามีเวลาทำงานแค่สองชั่วโมงรีบไปเถอะ เดี๋ยวแม่ก็มารับแล้ว” คามิลลารีบตัดบท

แต่ทว่าบุรินทร์ที่เดินผ่านมาได้ยิน ทำให้เขาถึงกับกุมขมับไม่สบายใจ หญิงสาวที่เขาหมายปองมาหลายปี อยู่ดี ๆ สามีของเธอกำลังจะโผล่มา เขาจะทำยังไงดี พราวมุกถึงจะรับรักเขาสักที

“ผมจะทำยังไง ถึงจะเข้าไปนั่งในหัวใจคุณได้นะพราวมุก” นาทีนี้สิ่งที่บุรินทร์ทำได้ คือการคอยดูแลหญิงสาวอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ เพราะพราวมุกไม่เคยขอความช่วยเหลือจากเขา บ่อยครั้งที่บุรินทร์พยายามยื่นมือเข้าช่วย แต่ทว่าเธอนั้นได้ปฏิเสธกลับมาทุกครั้ง

สองพี่น้องช่วยกันรับออเดอร์ลูกค้า ก่อนจะนำอาหารและเครื่องดื่มไปเสิร์ฟ ซึ่งคามิลลาไม่คิดว่าวันนี้เธอจะได้เจอกับคู่ปรับอย่างเจนนี่ จึงไม่พ้นที่จะถูกแขวะจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน

“คุณพ่อคุณแม่ขา... เจนขอเศษตังค์หน่อยสิค่ะ พอดีว่าเจอเพื่อนที่โรงเรียน เลยอยากสมทบทุนให้ค่าขนมเธอน่ะค่ะ”

“ทั้งหมดเก้าร้อยแปดสิบห้าบาทค่ะ เงินทอนค่ะ” คามิลลาส่งบิลและเงินทอนให้กับลูกค้า

“ยังมีของเหลือจากฉัน เธอจะเก็บไว้กินก็ได้นะ เศษอาหารพวกนั้นเหมาะกับเธอดี” เจนนี่แสยะยิ้มร้าย เธอดูแก่แดดเกินเยียวยา แต่บิดามารดากลับไม่ห้ามปรามปล่อยให้ลูกสาวแสดงกิริยาไม่น่ารัก ท่ามกลางสายตาผู้คนรอบข้างอย่างไม่แคร์ใคร

เพล้ง!! เหรียญห้าหล่นลงที่พื้น จากการตั้งใจของเจนนี่

“ก้มไปเก็บสิ! ฉันให้ทิป สงสารเห็นว่าไม่มีพ่อ”

“ขอบคุณค่ะ” เพราะเจนนี่อยู่ในสถานะลูกค้า จึงทำให้คามิลลาทำอะไรไม่ได้ มากไปกว่าการก้มลงไปหยิบเหรียญที่หล่นอยู่บนพื้น

ฟึ่บ!!

“โอ๊ย!” คามิลลาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ก็พยายามอดทนอดกลั้นเอาไว้ ไม่อยากมีเรื่องกับลูกค้า เธอกลัวว่ามารดาจะไม่ให้มาทำงานที่นี่อีก

“อุ้ย! ขอโทษนะ พอดีว่ามองไม่เห็น” เจนนี่กดเท้าลงไปบดขยี้นิ้วมือของคามิลลาอย่างตั้งใจ แต่ก็ทำเป็นกล่าวขอโทษออกมาด้วยแววตาร้าย ๆ ก่อนจะเดินตามบิดามารดาของเธอออกไปจากร้าน

“เป็นอะไรหรือเปล่า” คาร์เตอร์รีบเดินเข้ามาหาน้องสาวของเขา ก่อนจะก้มลงไปจับมือคามิลลาขึ้นมาดู ซึ่งพบว่ามีรอยแดงจากแรงกดเท้าของเจนนี่

“ช่างมันเถอะ แค่นี้เอง ฉันไม่เป็นไรหรอก นายไปทำงานเถอะ” ใครจะรู้ว่าภายใต้น้ำเสียงที่ดูปกติของคามิลลา มันแฝงไปด้วยความแค้นอยู่ในอก

ถ้าหากมวันนี้มีบิดาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา มีครอบครัวที่อบอุ่น เธอก็คงไม่ต้องถูกใครต่อใครตราหน้าว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ แล้วแบบนี้จะไม่ให้เธอโกรธและเกลียดผู้ชายคนนั้นได้ยังไง ผู้ชายที่ทำให้เธอเกิดมาแต่ไม่คิดที่จะรับผิดชอบชีวิตของเธอกับคาร์เตอร์เลยแม้แต่น้อย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป